ช่วงนี้มีข่าวฮือฮาเรื่องหมุดคณะราษฎร์ที่ หายไป ถูกสับเปลี่ยนด้วยหมุดอื่นแทน ซึ่ง
มีข้อความบนหมุดแตกต่างและไปคนละทางกับหมุดเดิมก็อดที่จะร่วมแสดงคงามเห็นไม่ได้ว่า น่าสงสัยหรือไม่ว่าจะเป็นการกระทำของกระบวนการอะไร เพราะคงไม่ใช่คนคนเดียวทำเรื่องนี้เป็นแน่ และน่าจะมีอะไรอยู่พอสมควร จึงสามารถรื้อเอาหมุดที่ปักบนถนนสายสำคัญที่ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงออกไปได้ แถมอยู่ไม่ไกลจาก หน่วยราชการสำคัญหลายหน่วยทีเดียว
เรื่องนี้อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเป็นจริงของสังคมไทยว่า แม้เราจะเป็นประเทศที่เปลี่ยนแปลงมาเป็นประชาธิปไตยได้มาเกือบ 80 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนระบอบประชาธิปไตยของไทย ก็ยังลุ่มๆดอนๆมิหยุด คงมีหลายทฤษฎี มีหลายคำอธิบาย ที่จะอธิบายปรากฏการณ์นี้ในสังคมไทย คำอธิบายหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้และอาจจะสอดคล้องเกี่ยวกับเรื่องหมุดนี้ก็คือ
คนไทยดูเหมือนจะถูกสอนมาในแบบที่ ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญ และมิได้ตระหนักว่าตนเองนั้นเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
หลักการที่สำคัญที่บัญญัติไว้ในมาตราแรกของรัฐธรรมนูญทุกรัฐธรรมนูญของสังคมไทย(ยกเว้นธรรมนูญการปกครอง ที่ใช้ชั่วคราว)ว่า “ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย” นั้นบัญญัติไว้เฉยๆ แต่ไม่ค่อยมีการส่งสเริมให้ประชาชนทราบและตระหนักเท่าไรนัก ในสังคมของเรามีการรณรงค์ส่งเสริมในประเด็นนี้ไม่ค่อยมาก จนอาจมีส่วนให้ความรักและหวงแหนในสิ่งที่เป็นหลักของสังคมประชาธิปไตยที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเองมีน้อย
น้อยจนประชาชนถึงกับเฉยเมย หากแม้จะมีสิ่งใดกำลังคุกคามตัวรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งที่ผานมาก็ดูจะเป็นไปแนวนี้
เรื่องนี้อาจจะคล้ายกับเรื่องงานวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งช่วงแรกๆหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีพศ .2475 นั้น วันรัฐธรรมนูญถูกจัดให้เป็นวันที่สำคัญ และมีการจัดกิจกรรมภาคประชาชนมากเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง แต่งานเฉลิมฉลองวันรัฐธรรมนูญถูกงดไปตั้งแต่รัฐประหารสมัยจอมพล สฤษฎร์ เมื่อปี 2500 ความสนุกความยิ่งใหญ่ของงานฉลองวันรัฐธรรมนูญสมัยนั้น ซึ่งน่าจะทียบเท่ากับ
“งานกาชาด” ในยุคปัจจุบัน ... ดูได้จากนิยายอันโด่งดังของป. อินทรปาลิต ซึ่งคุณธนโชติ เกียรติณภัทร นักศึกษาสาขาจารึกศึกษา คณะโบราณคดี ได้เขียนไว้ใน “ ตามรอยงานฉลองรัฐธรรมนูญจาก พล นิกร กิมหงวน” ข้อคัดข้อความที่มีปรากฎในเฟสมาลงให้ดูบางส่วน ใน Spoil ดังนี้....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป. อินทรปาลิต ได้เขียนเรื่องงานรัฐธรรมนูญไว้ในหัสนิยายชุดสามเกลอครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ ในชื่อ “เที่ยวรัฐธรรมนูญ” พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เพลินจิตต์ ภายหลังสำนักพิมพ์ผดุงศึกษาพิมพ์ใหม่ใช้ชื่อตอนว่า “จำอวดบรรดาศักดิ์” เนื้อหาโดยสังเขปกล่าวถึงสามเกลอแอบหนีเมียไปเที่ยวงานรัฐธรรมนูญที่จัดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า สวนอัมพร สนามเสือป่าและเขาดินวนา ป. อินทรปาลิต กล่าวไว้ว่างานฉลองรัฐธรรมนูญนี้เป็นงานที่ “...พี่บังหนวดยุ่มย่ามแถวพาหุรัดอยากให้มีปีละ ๓๖๕ วัน งานรัฐธรรมนูญอันเป็นมิ่งขวัญของชาติ งานนี้แหละผู้หญิงที่มีอายุ ๑๒ ขวบ จนกระทั่ง ๔๐ ขวบ เร่งวันเร่งคืนรอคอยด้วยความปรารถนา ก่อนจะถึงงานร้านตัดเสื้อ (ผู้หญิง) ต้องทำงานหนัก แขกพาหุรัดเกือบหาเวลากินโรตีไม่ได้ ผ้าแพรเสื้อกระโปรงขายราวกับเทน้ำเทท่า...” และที่ลานพระบรมรูปนั้นได้ทำเป็น “...ประตูชัยทางเข้าออก ก่อเป็นรูปกรวยแหลมศิลป มองดูสูงตระหง่าน แสงไฟส่องสว่างราวกับกลางวัน มีอักษรขนาเขื่องปรากฏข้อความว่า “รัฐธรรมนูญจงถาวร”...”
ในงานฉลองรัฐธรรมนูญนั้นได้มีหน่วยงานทางราชการมาออกร้านขายของ หรือจัดแสดงมหรสพ-การละเล่นต่างๆ จากสามเกลอตอน “เที่ยวรัฐธรรมนูญ” ๒๔๘๒ พอจะประมวลถึงบรรยากาศร้านรวงต่างๆ ที่ป.อินทรปาลิต บรรยายไว้ดังนี้ - สวนอัมพรปะดับประดาด้วยโคมไฟสีส้ม มีธงชาติปักเป็นระยะ มีเวทีประกวดนางสาวไทย ร้านจำหน่ายอาหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง และมีสถานลีลาศ ส่วนผู้ดีมีเงินมีที่จอดรถคือหน้าวังปารุสก์
- “...ร้านศิลปากร สร้างด้วยไม้ไผ่ทาสีแดง หน้าร้านมีรูปปั้นของชายแข็งแรงคนหนึ่ง นุ่งผ้าเตี่ยว ขยับเท้าจะเดิน มีตัวอักษรใต้ภาพว่า ‘เดิน-เดิน-เดิน’…”
…”
- ร้านกรมรถไฟ ทำร้านคล้ายสถานีรถไฟ มีรถไฟเล็กคอยวิ่งให้บริการชมเขาดินวนา มีการทำถ้ำขุนตานจำลอง
- สำนักนายกรัฐมนตรี ตกแต่งร้านด้วยหลักศิลาประดิษฐานพานรัฐธรรมนูญ
- ร้านทหารราบกองพันที่ ๓ ทำเป็นกำแพงเมืองโบราณ มีหุ่นแสดงเหตุการณ์พระเจ้าตากตีเมืองจันทรบูร และหุ่นจำลองผู้แทนไทยทำสัญญากับต่างประเทศ
- ร้านกรมช่างแสงทหารบก ตกแต่งทำเป็นป้อมโบราณมีพานรัฐธรรมนูญอยู่เหนือป้อม ทางซ้ายของร้านเป็นที่จำหน่ายของเล่นและสิ่งประดิษฐ์ของช่างในกรม เช่น เรือใบ ดินสอ ปลอกลูกปืน ฯลฯ และทางขวาเป็นที่ไว้รางวัลสำหรับผู้มายิงเป้าในงาน
- หอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นออกร้านจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่น
- กองทัพเรือสร้างเขาวงกตและให้บริการเรือตูม (เรือบดเล็กๆ บรรจุได้ทีละ ๔ คน) ปล่อยจากที่สูงแล่นลงมาตามทางโค้งก่อนจะถึงสระ ค่าโดยสารคนละ ๕ บาทรายได้บำรุงกองทัพเรือ
- สนามเสือป่า มีดนตรี มีร้านกรมสหกรณ์ ร้านสโมสรสภาผู้แทนราษฎร และมีการจัดแสดงป.ต.อ.ที่พ่อค้าและองค์กรต่างๆ บริจาคเงินซื้อให้กองทัพบก
อ้างอิง...https://th-th.facebook.com/DamrongJournal/posts/875196032520139:0
การหายไปของงานฉลองวันรัฐธรรมนูญที่เคยยิ่งใหญ่ระดับงานกาชาด
การหายไปของหมุดคณะราษฎร์ จะเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างไร จะหมายถึงพลังที่อ่อนล้าลงของสังคมประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของสังคมหรือไม่ และพลัง ของสังคมประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดจะฟื้นกลับคืนขึ้นมาได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่าน จะพิจารณาครับ
......“ May The Force(of Democracy) be with You”.....
۞۞۞۞ ::.....หมุดคณะราษฎ์ กับพลังที่อาจหายไป.... ::۞۞۞۞----- ไทโรครับ
เรื่องนี้อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเป็นจริงของสังคมไทยว่า แม้เราจะเป็นประเทศที่เปลี่ยนแปลงมาเป็นประชาธิปไตยได้มาเกือบ 80 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนระบอบประชาธิปไตยของไทย ก็ยังลุ่มๆดอนๆมิหยุด คงมีหลายทฤษฎี มีหลายคำอธิบาย ที่จะอธิบายปรากฏการณ์นี้ในสังคมไทย คำอธิบายหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้และอาจจะสอดคล้องเกี่ยวกับเรื่องหมุดนี้ก็คือ คนไทยดูเหมือนจะถูกสอนมาในแบบที่ ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญ และมิได้ตระหนักว่าตนเองนั้นเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
หลักการที่สำคัญที่บัญญัติไว้ในมาตราแรกของรัฐธรรมนูญทุกรัฐธรรมนูญของสังคมไทย(ยกเว้นธรรมนูญการปกครอง ที่ใช้ชั่วคราว)ว่า “ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย” นั้นบัญญัติไว้เฉยๆ แต่ไม่ค่อยมีการส่งสเริมให้ประชาชนทราบและตระหนักเท่าไรนัก ในสังคมของเรามีการรณรงค์ส่งเสริมในประเด็นนี้ไม่ค่อยมาก จนอาจมีส่วนให้ความรักและหวงแหนในสิ่งที่เป็นหลักของสังคมประชาธิปไตยที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเองมีน้อย น้อยจนประชาชนถึงกับเฉยเมย หากแม้จะมีสิ่งใดกำลังคุกคามตัวรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งที่ผานมาก็ดูจะเป็นไปแนวนี้
เรื่องนี้อาจจะคล้ายกับเรื่องงานวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งช่วงแรกๆหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีพศ .2475 นั้น วันรัฐธรรมนูญถูกจัดให้เป็นวันที่สำคัญ และมีการจัดกิจกรรมภาคประชาชนมากเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง แต่งานเฉลิมฉลองวันรัฐธรรมนูญถูกงดไปตั้งแต่รัฐประหารสมัยจอมพล สฤษฎร์ เมื่อปี 2500 ความสนุกความยิ่งใหญ่ของงานฉลองวันรัฐธรรมนูญสมัยนั้น ซึ่งน่าจะทียบเท่ากับ “งานกาชาด” ในยุคปัจจุบัน ... ดูได้จากนิยายอันโด่งดังของป. อินทรปาลิต ซึ่งคุณธนโชติ เกียรติณภัทร นักศึกษาสาขาจารึกศึกษา คณะโบราณคดี ได้เขียนไว้ใน “ ตามรอยงานฉลองรัฐธรรมนูญจาก พล นิกร กิมหงวน” ข้อคัดข้อความที่มีปรากฎในเฟสมาลงให้ดูบางส่วน ใน Spoil ดังนี้....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การหายไปของงานฉลองวันรัฐธรรมนูญที่เคยยิ่งใหญ่ระดับงานกาชาด การหายไปของหมุดคณะราษฎร์ จะเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างไร จะหมายถึงพลังที่อ่อนล้าลงของสังคมประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของสังคมหรือไม่ และพลัง ของสังคมประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดจะฟื้นกลับคืนขึ้นมาได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่าน จะพิจารณาครับ
......“ May The Force(of Democracy) be with You”.....